ถ้ามี พ.ร.บ.แล้วจำเป็นต้องทำ ประกันรถยนต์ อีกหรือไม่ ?
ประกันรถยนต์ กับ พ.ร.บ. ต่างกันยังไง ?
พ.ร.บ.
จะให้ความคุ้มครองทั้งฝ่ายเรา และคู่กรณี ในส่วนของ- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ
- ค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
ประกันรถยนต์
- ให้ความคุ้มครองในส่วนของตัวรถ (โดยประกันแต่ละประเภท ก็จะให้ความคุ้มครองในส่วนของตัวรถของผู้เอาประกันที่ต่างกัน)
- เช่น ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองตัวรถผู้เอาประกันทุกกรณี แต่ถ้าเป็น ประกันชั้น 3 ก็จะไม่ได้คุ้มครองส่วนของตัวรถของผู้เอาประกัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อแตกต่างประกันรถยนต์แต่ละประเภท
- เช่น ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองตัวรถผู้เอาประกันทุกกรณี แต่ถ้าเป็น ประกันชั้น 3 ก็จะไม่ได้คุ้มครองส่วนของตัวรถของผู้เอาประกัน
- คุ้มครองกรณีชีวิต ทุพพลภาพ (จ่ายส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ.)
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง จากอุบัติเหตุ (จ่ายส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ.)
นี่คือข้อแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ. และ ประกันรถยนต์ ที่เรานำมาสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อตอบคำถามว่า มี พ.ร.บ. แล้วจำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ไหม
คำตอบก็คือ จำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ไว้ด้วย เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุแล้วตัวรถเสียหาย พ.ร.บ. จะไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนที่ประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครอง อีกทั้งประกันรถยนต์ยังจ่ายความคุ้มครองเพิ่มในส่วนที่เกินจากวงเงินความคุ้มครองใน พ.ร.บ.
เช่น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต กรมธรรม์ พ.ร.บ. จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณีเสียชีวิตและค่ารักษาพยาบาลรวมกันในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท เท่านั้น ซึ่งถ้าเรามีประกันรถยนต์ ก็จะคุ้มครองส่วนที่เกินจากวงเงิน 5 แสนบาท ให้กับผู้เสียหายได้
ดังนั้น ควรซื้อ พ.ร.บ. ควบคู่กับ ประกันรถยนต์ ไว้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ และในปัจจุบัน มีประเภทประกันรถยนต์ หลากหลายแผนให้เราเลือกซื้อตามงบที่เรามี ที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา แต่จะง่ายกว่านั้น ให้เราแนะนำประกันรถยนต์ที่เหมาะกับคุณ ทักเลย ซี พี อินเตอร์ โบรคเกอร์ ยินดีให้คำแนะนำในการเลือกซื้อประกันรถยนต์
ผ่อน 0% (เงินสด หรือ บัตรเครดิต)
คุ้มครองรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม*
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ทั่วไทย*
คุ้มครองโดยบริษัทประกันภัยชั้นนำ
*เงื่อนไขเป็นไปตามทีบริษัทฯกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเช็คเบี้ย ทักเลยที่
Line
inbox เฟสบุ๊ค